บทบาทของนักบัญชีกับการจัดทำรายงานความยั่งยืน
Student blog — 23/09/2025

2. การประเมินและวัดผลกระทบ: นักบัญชีต้องใช้ความรู้ในการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมให้ออกมาเป็นตัวเลขหรือมูลค่าที่จับต้องได้ เช่น การคำนวณต้นทุนการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือการประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจของการสร้างงานในชุมชน การวัดผลเหล่านี้ช่วยให้ผู้บริหารเห็นภาพที่ชัดเจนและสามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. การควบคุมภายในและการตรวจสอบ: เพื่อให้ข้อมูลในรายงานความยั่งยืนมีความน่าเชื่อถือ นักบัญชีมีหน้าที่ในการออกแบบและควบคุมระบบการตรวจสอบภายในสำหรับข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงิน เช่น การตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนขยะที่ถูกนำไปรีไซเคิล หรือการตรวจสอบชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาของพนักงาน การตรวจสอบภายในที่เข้มงวดจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียว่าข้อมูลที่นำเสนอมีความน่าเชื่อถือ
4. การให้คำปรึกษาและจัดทำรายงาน: นักบัญชีสามารถให้คำปรึกษาแก่ผู้บริหารในการเลือกกรอบการจัดทำรายงานความยั่งยืนที่เหมาะสม เช่น GRI (Global Reporting Initiative) หรือมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ (Task Force on Climate-related Financial Disclosures: TCFD) และมีบทบาทสำคัญในการจัดทำร่างรายงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานที่กำหนด เพื่อให้รายงานมีความครบถ้วน โปร่งใส และเปรียบเทียบกับองค์กรอื่นได้
จะเห็นได้ว่าบทบาทของนักบัญชีในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปอย่างมาก จากผู้จัดทำบัญชี สู่การเป็น ผู้สร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส ให้กับข้อมูลความยั่งยืนขององค์กร การผนวกความเชี่ยวชาญด้านการบัญชีเข้ากับการจัดทำรายงานความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่มคุณค่าให้กับวิชาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยให้องค์กรสามารถสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว และสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
เขียนโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุกัญญา ต่ออภิชาตตระกูล